อาหารเสริมชาย pantip เพื่อรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพ
4 ธันวาคม 2563, 05:00 น.หนึ่งในโรคที่ผู้ชายหลายคนไม่อยากเป็น และไม่อยากต้องประสบพบเจอเลยก็คือ โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพและการใช้ชีวิตแล้วนั้น ยังส่งผลไปยังภาวะทางด้านจิตใจได้อีกด้วย ซึ่งอาการของโรคนั้นจะมีอะไรบ้าง สาเหตุของโรคเกิดจากอะไร และการรักษาด้วยยา pantip นั้น สามารถช่วยรักษาได้อย่างไรบ้าง ใครที่กำลังสงสัยว่าตนเองจะเป็น หรือกำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่ ต้องมาอ่านบทความนี้กัน
รู้จักโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศให้ดีกว่าเดิม
สำหรับผู้ชายหลายคน ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) อาจเป็นปัญหาชั่วคราวหรือระยะยาวได้ และประมาณ 52% ของผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 70 ปี มีประสบการณ์ ED ในบางครั้ง เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ กันไป และในปัจจุบันการรักษา ED นั้น สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นด้วยตัวเลือกต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ การใช้ยา pantip นั่นเอง
ยารักษา ED ที่กำหนดโดยทั่วไปนั้น จะอยู่ในกลุ่ม ยาเพิ่มขนาด ที่เรียกว่าสารยับยั้ง phosphodiesterase (PDE-5) เช่น (sildenafil), Levitra (vardenafil) และ Cialis (tadalafil) เป็นสารยับยั้ง PDE-5 ทั้งสามตัวนี้ทำงานโดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเพื่อรักษาอาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ และแม้ว่ายาเหล่านี้จะทำงานในลักษณะเดียวกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างบางประการที่ต้องระวัง เมื่อต้องการเลือกตัวเลือกการรักษาที่ดีที่สุด นอกจากยาแล้ว การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็ช่วยปรับปรุงสุขภาพทางเพศของคุณได้เช่นกัน แต่มีข้อควรระวังในการใช้ยาในกลุ่ม pantip หากคุณใช้ยาไนเตรต เช่น ไนโตรกลีเซอรีน หรือยาที่คล้ายคลึงกันสำหรับรักษาอาการเจ็บหน้าอก การใช้ยาร่วมกันกับ อาหารเสริมผู้ชาย อาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำและเป็นอันตรายได้
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือการที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ และไม่สามารถแข็งค้างได้นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ รวมถึงยังอาจมีปัญหาอื่น ๆ ด้วย เช่น มีความต้องการทางเพศลดลง ซึ่งหากมีปัญหาในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ แนะนำให้ควรไปพบแพทย์หากมีปัญหาอื่น ๆ ดังนี้
1. มีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ หรือมีปัญหาทางเพศอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การหลั่งเร็วหรือหลั่งช้า
2. เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือภาวะสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการหย่อน สมรรถภาพ
3. มีอาการอื่น ๆ ร่วมกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เช่น ความต้องการทางเพศลดลง
4. มีปัญหาในการหลั่ง หรือการสำเร็จความใคร่ ไม่สามารถไปถึงจุดสุดยอดได้
5. มีปัญหาเกี่ยวกับแรงขับทางเพศ หรือความเร้าอารมณ์ทางเพศ
6. มีอาการเจ็บปวดจากการแข็งตัว
ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ร่วมกับอวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ ลองสำรวจตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้มานานแค่ไหน และอวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ทุกครั้ง หรือแค่บางครั้ง และรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติม และวิธีในการรักษา ว่าจะใช้ยา pantip ในการรักษาอย่างไรบ้าง
สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ความเจ็บป่วยของโรคนั้นเกิดขึ้นเมื่อเราไม่สามารถเกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศ หรือรักษาการแข็งตัวอย่างสม่ำเสมอได้ ซึ่งภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ รวมถึงความผิดปกติทางอารมณ์และร่างกาย โดยความเสี่ยงของโรคนั้นจะเพิ่มขึ้นตามอายุ นอกจากนี้ยังมีโอกาสพบได้สูงกว่าในผู้ชายที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง ซึ่งการไร้สมรรถภาพทางเพศมักส่งผลเสียต่อชีวิตเซ็กส์ของคุณ และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า หรือมีความเครียดเพิ่มเติม และเกิดความนับถือตนเองต่ำ ดังนั้น การทำความเข้าใจสาเหตุที่เป็นไปได้ที่พบบ่อยที่สุด จะสามารถช่วยให้เรารู้ถึงสาเหตุที่อาจประสบกับภาวะนี้ได้ สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีดังนี้
1. โรคต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อของร่างกาย จะสร้างฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญ, สมรรถภาพทางเพศ, การสืบพันธุ์, อารมณ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งโรคเบาหวานส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการใช้ฮอร์โมนอินซูลิน และหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานเรื้อรังคือ เส้นประสาทถูกทำลาย สิ่งนี้มีผลต่อความรู้สึกของอวัยวะเพศชาย รวมถึงภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน ได้แก่ การไหลเวียนของเลือดและระดับฮอร์โมนที่บกพร่อง ปัจจัยทั้งสองนี้สามารถนำไปสู่การแข็งตัวของอวัยวะเพศได้
2. ความผิดปกติของระบบประสาทและเส้นประสาท
ภาวะทางระบบประสาทหลายอย่าง สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการแข็งตัวได้ เพราะภาวะเส้นประสาทส่งผลต่อความสามารถของสมองในการสื่อสารกับระบบสืบพันธุ์ ซึ่งความผิดปกติของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ได้แก่ โรคอัลไซเมอร์, โรคพาร์กินสัน, เนื้องอกในสมองหรือกระดูกสันหลัง, เส้นโลหิตตีบ, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคลมบ้าหมู เป็นต้น และหากเคยผ่าตัดต่อมลูกหมากมาก่อน อาจได้รับความเสียหายของเส้นประสาทซึ่งส่งผลให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้ นอกจากนี้คนที่ขี่จักรยานทางไกลอาจมีอาการหย่อนสมรรถภาพชั่วคราวได้ เพราะมีการกดทับที่ก้นและอวัยวะเพศซ้ำ ๆ อาจส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาทนั่นเอง
3. การใช้ยา
การกินยาบางชนิดอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดซึ่งอาจนำไปสู่ ED ได้ แต่ก็ไม่ควรหยุดใช้ยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์ แม้ว่าจะทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวก็ตาม และตัวอย่างของยาที่ทำให้เกิดภาวะนี้นั้น ได้แก่ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง และต่อมลูกหมากโต, ยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติบางชนิด, ยาเคมีบำบัดมะเร็ง, สารกดประสาทส่วนกลาง, สารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง, ยาขับปัสสาวะ และฮอร์โมนสังเคราะห์ เป็นต้น
4. ภาวะที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ
ภาวะที่ส่งผลต่อหัวใจและความสามารถในการสูบฉีดเลือดได้ดีนั้น อาจทำให้เกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้ เพราะหากไม่มีเลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศเพียงพอ อวัยวะเพศก็จะไม่แข็งตัว นอกจากนี้ภาวะหลอดเลือด คอเลสเตอรอลสูง และความดันโลหิตสูง ยังเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนี้ด้วย
5. ปัจจัยด้านวิถีชีวิตและความผิดปกติทางอารมณ์
เพื่อให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ก่อนอื่นคุณจะต้องผ่านสิ่งที่เรียกว่าความตื่นเต้น ที่เกิดจากความสามารถตอบสนองทางอารมณ์ หากคุณมีความผิดปกติทางอารมณ์ก็จะส่งผลต่อความสามารถในการตื่นเต้นทางเพศ ซึ่งภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับการที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ รวมไปถึงการใช้ยาเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์ก็อาจส่งผลต่อความสามารถในการรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้เช่นกัน
รักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ด้วยยา pantip
การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น สามารถใช้วิธีการเยียวยาตามธรรมชาติ, การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รวมถึงการใช้ยา pantip ในการรักษาด้วย ซึ่งยาที่สามารถใช้รักษาภาวะนี้ได้นั้น ได้แก่ alprostadil มีให้เลือกทั้งแบบฉีดหรือแบบเหน็บ และ กินคือ avanafil (Stendra), sildenafil (), tadalafil (Cialis) และ vardenafil (Staxyn, Levitra)
ยาเหล่านี้ทำงานคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของระยะเวลาที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และความเร็วในการออกฤทธิ์ของยา ดังนี้
1. ยา Levitra ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการเริ่มทำงาน และออกฤทธิ์นานกว่า เล็กน้อย คือประมาณ 5 ชั่วโมง
2. ยา Staxyn ยาละลายในปาก ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์เช่นเดียวกับ Levitra และสามารถเริ่มทำงานได้ในเวลาประมาณ 15 นาที
3. ยา ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงจะออกฤทธิ์ และจะออกฤทธิ์นานประมาณ 4 ชั่วโมง
4. ยา Cialis จะออกฤทธิ์นานที่สุดคือ สามารถออกฤทธิ์ได้นานถึง 36 ชั่วโมง
5. ยา Stendra เริ่มทำงานได้ภายใน 15 นาที และออกฤทธิ์ได้นานถึง 6 ชั่วโมง
นอกจากนี้แพทย์อาจใช้วิธีการบำบัดทดแทนฮอร์โมนเพศชาย หรือใช้การผ่าตัดหลอดเลือด เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดในอวัยวะเพศชาย หรือการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเพศชาย ในกรณีที่มีอาการรุนแรงและยาไม่สามารถรักษาได้ แต่ทั้งนี้ในการใช้ยา pantip ในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น ก็ยังจัดว่าเป็นวิธีในการรักษาที่ดีและได้ผล ทั้งยังมีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งหากไม่อยากใช้ยา ก็ลองปรับพฤติกรรมและวิถีชีวิตของตนเอง เพื่อที่จะช่วยให้อาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัวดีขึ้น หรือปรับไปพร้อม ๆ กับการใช้ยา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นก็ได้เช่นกัน